รีไรท์ รักของท่านอ๋องมัธยัสถ์ ภาค 1 และต่อด้วยภาค 2 - นิยาย รีไรท์ รักของท่านอ๋องมัธยัสถ์ ภาค 1 และต่อด้วยภาค 2 : Dek-D.com - Writer
×

    รีไรท์ รักของท่านอ๋องมัธยัสถ์ ภาค 1 และต่อด้วยภาค 2

    ผู้เข้าชมรวม

    615

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    615

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    29
    จำนวนตอน :  22 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 เม.ย. 65 / 21:14 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูรายการอีบุ๊กทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     

    “โอ๊ะ!!!!! เหมยเอ๋อ”

     

    ชินอ๋องจ้าวหมิงกรีดร้อง ก่อนจะรีบปล่อยผ้าผืนบางที่พันรอบเอวให้หลุดลงไปกองบนพื้น เผยให้เห็นเรือนร่างกำยำเปลือยเปล่าที่มีหยดน้ำเกาะพราวทั้งร่าง เส้นผมสีน้ำหมึกเปียกหมาดยาวสยายอยู่เต็มแผ่นหลัง ทั้งเนื้อทั้งตัวของชายหนุ่มมีเพียงผ้าเตี่ยวผืนบางๆ ที่ห่อหุ้มบางสิ่งบางอย่างที่ดูคล้ายกุนเชียงอันเขื่องเอาไว้แทบจะไม่มิด

     

    “เข้ามาเงียบๆ เปิ่นหวางตกใจจนทำผ้าหลุดเลยเห็นไหม...............อ้า ขายหน้าเจ้าแล้ว”

     

    แม้นน้ำเสียงที่กล่าวออกจะเหมือนเอียงอาย หากแต่ชินอ๋องผู้เกรียงไกรกลับยืนเท้าสะเอว เกร็งบั้นท้าย พร้อมทั้งแยกขาทั้งสองออกให้กว้างขึ้น เพื่ออวดลอนกล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งงดงามดั่งเทพสวรรค์

     

    พระชายาลู่เสี่ยวเหมยได้แต่กรอกตาไปมา อันใดคือเข้ามาเงียบๆ  เสียงขานรับการมาของนางดังไปทั่ววังหลวงขนาดนั้นกลับบอกว่าไม่ได้ยิน หญิงสาวรวบรวมสติ ก่อนที่จะหันหลังกลับไปดูให้แน่ใจว่าประตูปิดสนิทดีแล้ว อย่างไรเสียบุรุษผู้นี้ก็คือสามีของนาง เรื่องน่าอายเช่นนี้จึงมิควรเล็ดลอดออกไปให้ผู้ใดเห็น

     

    “มานั่งตรงนี้ก่อน เจ้าหิวหรือไม่ วันนี้ทางห้องเครื่องจัดสำรับเป็นข้าวหมูแดง หมูกรอบ ของโปรดเจ้า เอ๊ะ! หรือเจ้าอยากจะกินกุนเชียงทอด

     

    ชินอ๋องจ้าวหมิงพูดพลางใช้สายตาอันปรือฉ่ำมองชี้นำไปยังสิ่งที่ซ่อนอยู่ในผ้าเตี่ยวผืนน้อยของตน ดั่งคล้ายจะเชิญชวนให้นางมาลิ้มลอง

     

    “หม่อมฉันไม่หิวเพคะ เรามีหลายเรื่องที่จะต้องคุยกัน!”

     

    ถึงแม้นจะเอียงอายแต่นางจำต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอันใด

     

    “ถ้าเจ้าไม่หิว เช่นนี้จิบสุราดอกท้อของโปรดเจ้าให้ร่างกายอบอุ่นก่อนดีกว่า มาสิเปิ่นหวางจะรินให้”

     

    ชินอ๋องจ้าวหมิงรีบยกกาสุราขึ้นมาเพื่อรินให้พระชายาอย่างเอาอกเอาใจ มิคาดเขากลับเสียหลักเซล้ม ทำให้สุราทั้งกาหกรดเรือนร่างที่เกือบจะเปลือยเปล่าจนหมด

     

    “เปิ่นหวางซุ่มซ่ามจริงๆ เลย ดูสิสุราหกรดจนหมดแล้ว เฮ้อ นี่เป็นสุราดอกท้อกาสุดท้ายของปีนี้แล้วด้วย แต่ไม่เป็นไรเจ้าดูสิ ผ้าเตี่ยวผืนนี้ซับน้ำได้ดีมากเลย มันซับสุราดอกท้อเอาไว้ได้เกือบหมด ถ้ายังไงเจ้าลองยื่นริมฝีปากเข้ามาใกล้ๆ จะได้ดูดชิมมันได้ถนัดๆ”

     

    เขาพูดพลางใช้สองมือประคองผ้าเตี่ยวผืนน้อยเอาไว้ในอุ้งมือแล้วยื่นมันเข้าไปใกล้ๆ ริมฝีปากของลู่เสี่ยวเหมยที่เอาแต่นั่งตกตะลึงนั่งตัวแข็งทื่อ นางคาดไม่ถึงจริงๆ ว่าแม่ทัพทมิฬผู้สูงส่งและโหดเหี้ยมแห่งแคว้นจ้าว แท้จริงแล้วจะมีเบื้องหลังแปลกๆ เยี่ยงนี้

     

    “อื้อ เจ้าคงอายสินะ ถึงเอาแต่นั่งเม้มปากแน่นขนาดนี้” 

     

    พูดจบชินอ๋องจ้าวหมิงจึงรีบดันตัวตนของเขาไปใกล้ๆ ริมฝีปากบาง พร้อมทั้งยักย้ายส่ายสะโพกสลับกับหมุนควงบั้นเอวเบาๆ

     

    “อ้าห์......... เร็วเข้าสิเหมยเอ๋อ..... อู้วววววว.........เจ้าจะกินหมูแดง หมูกรอบ หรือว่า................อื้ออออออ กุนเชียงงงงงงงงงง”

     

    ตอนนี้เจ้าสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ผ้าเตี่ยวผืนน้อยของชินอ๋องจ้าวหมิงเริ่มจะไม่อยู่นิ่ง มันผลุบๆ โผล่ๆ ออกมาทักทายพระชายาลู่เสี่ยวเหมยในบางจังหวะ  ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อชินอ๋องจ้าวหมิงสะบัดฝ่ามือทั้งสองที่โอบอุ้มผ้าเตี่ยวอันชุ่มฉ่ำไปด้วยสุราดอกท้อไปมา หยาดสุราเหล่านั้นถึงกับกระเด็นใส่หน้าพระชายาจนเปียกชุ่ม

     

    “กรี้ดดดดดด ไม่ไหวแล้ว อะไรกันนี่!”

     

    ลู่เสี่ยวเหมยกรีดร้องอย่างรับไม่ได้ นางรีบถลันลุกขึ้นเตรียมจะหนีออกไปจากห้อง แต่ยังช้าไปกว่าชินอ๋องจ้าวหมิง เขากระชากผ้าเตี่ยวผืนน้อยจนฉีกขาด บัดนี้กุนเชียงท่อนเขื่องที่ติดตัวเขามาแต่กำเนิดได้ออกมาคารวะนางอย่างเต็มพิธีการ!

     

    “ไม่ต้องอายนะเหมยเอ๋อ ความกำหนัดมันเป็นเรื่องธรรมชาติ เปิ่นหวางเป็นสามีเจ้าดังนั้นเจ้าย่อมระบายความกำหนัดกับเปิ่นหวางได้เต็มที่”

     

    ชินอ๋องจ้าวหมิงพูดพลางยื่นมือทั้งสองข้างที่เคยกอบกุมผ้าเตี่ยวผืนน้อยขึ้นมาประครองดวงหน้าของนางไว้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะใช้จมูกคมสันลูบไล้ไปบนใบหน้านางอย่างแผ่วเบา

     

    “เอ๊ะ! นี่ขนอันใดติดอยู่บนหน้าเจ้า........ จิ๊ จิ๊ เจ้านี่ยังเป็นเด็กน้อยอยู่เลยนะ ระะหว่างทางยังไปแวะเล่นกับหมากับแมวในวังหลวงมาอีก แต่เอ หมาแมวที่นี่ไม่มีสีดำนี่นา ถ้าไม่เป็นสีขาวก็เป็นสีน้ำตาลมิได้มีขนสีดำหงิกๆ งอๆ เยี่ยงนี้”

     

    ชินอ๋องพูดพลางใช้นิ้วมือเขี่ยเส้นขนกระจุกเล็กๆ ออกจากพวงแก้มอันนวลกระจ่างใสของพระชายา แล้ววางไว้บนฝ่ามือทั้งสองของนาง ลู่เสี่ยวเหมยได้แต่เบิกตากว้างก่อนจะกรีดร้องตอบไปว่า

     

    “ขนหมาขนแมวที่ไหนกัน นี่มันขนของท่านอ๋องชัดๆ 

     

    ..........................................................................................................................

    สวัสดีค่ะพบกันอีกครั้งในนิยายเรื่องรักของท่านอ๋องมัธยัสถ์ภาค 1 ฉบับรีไรท์ ซึ่งจะมีลงต่อเนื่องไปจนถึงภาค 2 จนจบนะคะ  ที่ไรท์ตัดสินใจรีไรท์นิยายเรื่องนี้ก็เพราะมันเป็นนิยายเรื่องแรกในชีวิตที่ไรท์รักมาก ดังนั้นจึงมีคำผิด เนื้อเรื่องที่เยิ่นเย้อ รวมทั้งยังมีรายละเอียดบางอย่างของบางตัวละครที่ไรท์ลืมเขียนถึง ซึ่งมันจะมีเนื้อหาต่อเนื่องมายังภาคสองด้วยค่ะ  แต่หากท่านใดสนใจ สามารถไปอ่านฉบับดั้งเดิมได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้นะคะ

    https://writer.dek-d.com/anneja/writer/view.php?id=2131143

    นิยายเรื่องนี้จะเปิดให้อ่านฟรีโดยไม่ติดเหรียญทั้งภาค 1 และภาค 2 เหมือนกับนิยายเรื่องเพลิงพระชายาที่เพิ่งลงจบไป

    https://writer.dek-d.com/anneja/writer/view.php?id=2205088

    สำหรับท่านที่ไม่เคยอ่านนิยายของไรท์มาก่อน ก็อยากจะบอกว่าไรท์เขียนนิยายขายขำ ไม่มีดราม่า และเนื้อเรื่องที่เขียนก็ไม่มีความสมเหตุสมผลอันใด พะเอกของไรท์ก็เป็นแนว bad boy  ยังไงก็ฝากให้โอกาสนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ

     

    ขอบคุณมากค่ะ

    ทองแท้

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น